เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ที่ผ่านมา สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ร่วมกับ เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย สายด่วนปรึกษาเอดส์ ๑๖๖๓ และองค์กรภาคี แถลงข่าว “ตรวจเร็ว รู้เร็ว หยุดเอดส์ได้” ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
นายโสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันที่ ๑ กรกฎาคม ของทุกปี ถือเป็นวันรณรงค์ตรวจเลือดเอชไอวีแห่งชาติ (VCCT Day) ซึ่งต้องการให้ประชาชนทราบผลการติดเชื้อเอชไอวีของตัวเองโดยเร็ว จะได้เข้ามารักษาเร็ว เพื่อทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ ในหลายพื้นที่จะจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อตรวจหาเชื้อฯ
ด้านนายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ กล่าวว่า การรู้ผลเลือดนั้นดีกว่าไม่รู้ เพราะเมื่อรู้เร็วก็รีบเข้าสู่การรักษา จะทำให้ไม่ป่วยเป็นเอดส์ และก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งการมีเชื้อเอชไอวีไม่ทำให้สูญเสียคุณค่าในชีวิต เพราะเอดส์รักษาได้ เอชไอวีป้องกันได้ เมื่อเข้าถึงการรักษา ผู้ติดเชื้อฯ ก็จะแข็งแรง ทำงานได้ เรียนได้ไม่ต่างกับคนที่ไม่มีเชื้อฯ
“การตรวจเลือดต้องเป็นไปโดยสมัครใจ เราต้องเลิกกีดกันโดยผลเลือดเอชไอวี หรือเอาเอชไอวีมาเป็นเงื่อนไขของการรับเข้าเรียน เข้าทำงาน เพราะการรู้ผลเลือดของคนอื่นเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่มีใครติดเชื้อฯ จากการใช้ชีวิตประจำวันร่วมกัน” ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ แถลงและว่า “วันนี้กลุ่มผู้ติดเชื้อฯ กว่า ๑๐๐ กลุ่มทั่วประเทศจัดกิจกรรมรณรงค์พร้อมกันในพื้นที่ เพื่อให้คนรู้สถานะการติดเชื้อฯ ของตัวเอง”
พญ.สุชาดา ไชยวุฒิ ผู้อำนวยการแผนงานสนับสนุนระบบบริการเอดส์ วัณโรค สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช. ดูแลสิทธิประโยชน์ในเรื่องเอดส์สำหรับประชาชนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ทั้งการรักษาด้วยยาต้านไวรัสฯ การตรวจเพื่อติดตามการรักษา การให้คำปรึกษาก่อนตรวจเลือด รวมถึงการป้องกันการถ่ายทอดเชื้อฯ ทั้งนี้ หากพบว่าติดเชื้อฯ สามารถเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งขณะนี้มีผู้รับยาต้านไวรัสฯ แล้วประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ ราย และมีผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่ประมาณปีละ ๑๕,๐๐๐ คน