“เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย” ทำแบนเนอร์ “สวัสดี 7วัน” เพื่อรณรงค์ “ยูเท่ากับยู” (U=U: Undetectable= Untransmittable) ที่ต้องการสื่อสารว่า “ผู้ติดเชื้อเอชไอวี กับผู้ไม่มีเชื้อ – คุณกับเรา เท่ากัน” เพราะผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่กินยาต้านไวรัสฯ จนตรวจไม่พบเชื้อในเลือด ‘เท่ากับ’ ไม่ส่งต่อเชื้อให้คนอื่น ดังนั้น ‘มี’ หรือ ‘ไม่มี’ เอชไอวี ‘ทุกคน’ ใช้ชีวิตไม่แตกต่างกัน มีลูก มีคู่ มีครอบครัว เรียน ทำงาน จนถึงมีอายุยืนยาวไปจนถึงช่วงสูงวัยได้เหมือนกับคนที่ไม่มีเชื้อเอชไอวี

สวัสดีวันอาทิตย์: “ยูเท่ากับยู” (U=U) หรือ Undetectable= Untransmittable หมายถึง ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่กินยาต้านไวรัสฯ จนตรวจไม่พบเชื้อในเลือด ‘เท่ากับ’ ไม่ส่งต่อเชื้อเอชไอวีให้คนอื่นได้

สวัสดีวันจันทร์: ผู้ติดเชื้อฯ ที่มีค่าไวรัลโหลด (Viral Load) หรือ VL น้อยกว่า 50 เท่ากับ “ตรวจไม่พบเชื้อในเลือด” ซึ่งเป็นเป้าหมายการรักษาด้วยยาต้านไวรัสฯ จะไม่ส่งต่อเชื้อให้กับผู้อื่น
กรณีหญิงตั้งครรภ์ ถ้ามีไวรัลโหลดน้อยกว่า 50 ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ไปจนถึงคลอด และหลังคลอดก็จะไม่ส่งต่อเชื้อให้ทารกแรกเกิด
ผู้ติดเชื้อฯ ที่มีค่าไวรัลโหลดน้อยกว่า 200 จะไม่ส่งต่อเชื้อทางเพศสัมพันธ์

สวัสดีวันอังคาร: ในชุดสิทธิประโยชน์ด้านเอชไอวีกำหนดให้ผู้ติดเชื้อฯ ที่กินยาต้านไวรัสฯ เกิน 6 เดือน ตามมาตรฐานจะต้องได้ตรวจหาจำนวนไวรัสเอชไอวีในเลือด หรือไวรัลโหลดปีละ 1 ครั้ง

สวัสดีวันพุธ: เพื่อให้ผู้ติดเชื้อฯ คงสถานะของ U=U ไปตลอด ผู้ติดเชื้อฯ ที่กินยาต้านไวรัสฯ มานาน แม้จะตรวจไม่พบเชื้อในเลือดแล้ว ไม่ควรหยุดทานยาต้านไวรัสฯ แต่ควรกินยาให้ต่อเนื่อง เพื่อกดเชื้อให้ค่าไวรัสโหลดต่ำจนตรวจไม่พบเชื้อไปตลอด

สวัสดีวันพฤหัสบดี: “เอชไอวี” ไม่ใช่เป็นเรื่องของใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของ “คนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง” ซึ่งหมายความว่าใครๆ ก็ติดเชื้อเอชไอวีได้หากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาด ซึ่งชุดสิทธิประโยชน์ด้านเอชไอวีปัจจุบันมีทางเลือกให้เราได้ประเมินความเสี่ยงและรู้ผลของตัวเองได้หลายช่องทาง เช่น ไปขอรับการตรวจเลือดที่โรงพยาบาลที่ร่วมโครงการกับบัตรทอง ได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง หรือขอรับชุดตรวจเอชไอวีด้วยตัวเองผ่านการจองคิวรับอุปกรณ์ที่แอปฯ เป๋าตัง เป็นต้น และผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่ที่ทราบผลว่าตัวเองติดเชื้อเอชไอวีก็สามารถเริ่มรับยาต้านไวรัสฯ ได้เลยทันทีไม่ต้องรอป่วย หรือที่เรียกว่า “Same day ART” จะช่วยให้ “U=U” เกิดได้เร็วขึ้น

สวัสดีวันศุกร์: ผู้ติดเชื้อฯ ที่เข้าถึงการรักษายาต้านไวรัสฯ ที่ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่องจะมีร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย เพราะกลไกของยาต้านไวรัสฯ จะเข้าไปกดเชื้อไวรัสฯ ในเลือดไม่ให้ทำลายภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของผู้ติดเชื้อฯ และในขณะเดียวกันผู้ติดเชื้อฯ บางคนที่เข้าถึงยาต้านไวรัสฯ ได้เร็วอาจไม่เคยป่วยด้วยโรคติดเชื้อฉวยโอกาสเลยก็มี เมื่อเชื้อถูกกดจนไม่สามารถตรวจหาเชื้อเจอ ผู้ติดเชื้อฯ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์โดยไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยได้ สามารถมีคู่ได้ มีลูกได้ มีครอบครัวได้เหมือนกับคนที่ไม่ติดเชื้อ

สวัสดีวันเสาร์: “มี” หรือ “ไม่มี” เอชไอวี ‘ทุกคน’ ใช้ชีวิตได้เหมือนกัน ไม่แตกต่างกัน เช่น ทำงาน เรียนหนังสือ ดูหนัง กินข้าว ท่องเที่ยว ทำธุรกิจ ขายของ บวชพระ การใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป สามารถทำได้ไม่แตกต่างกันเลย ดังนั้น จึงไม่ควรนำเรื่องเอชไอวี/เอดส์มาเป็นเงื่อนไขในการตีตราและการเลือกปฏิบัติ