ในวันเอดส์โลกปีนี้ เครือข่ายฯ นำบางส่วนจากคำกล่าวของอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายฯ มาเผยแพร่อีกครั้ง
++
“เอดส์ จะหยุดได้ ต้อง….”
ผมเชื่อว่า พวกเราคนทำงานเอดส์ทั้งที่อยู่ในภาครัฐ ภาคประชาชน มีเข้าใจตรงกัน และยึดมั่นเป็นเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน คือ เราอยากเห็นสังคมที่ไม่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ไม่มีการเสียชีวิตจากเอดส์ และไม่มีการตีตราหรือรังเกียจกีดกันที่เกี่ยวข้องกับเอชไอวี

สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เราพูดคุยกันมาโดยตลอด แต่เรายังต้องพูด และทำต่อไป
….
ในประเทศไทยมีตัวเลขคาดประมาณจำนวนผู้ติดเชื้อฯกว่า 500,000 คน ในจำนวนนี้ มีคนเข้าสู่ระบบบริการการรักษาแล้วประมาณ 3 แสนคน การจะทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมาย ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเอดส์ ด่านแรกที่จะต้องทำคือ ทำให้คนทุกคนเข้าใจความเสี่ยงที่แท้จริงในการรับเชื้อเอชไอวี “ทุกคน” ไม่ใช่ “บางคนหรือบางกลุ่ม” เมื่อคนรู้ความเสี่ยงของตัวเอง ก็ต้องทำให้เขามั่นใจที่จะก้าวเข้ามารับคำปรึกษาและตรวจเลือด และเข้าสู่การรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวีซึ่งประเทศได้เตรียมระบบไว้รองรับแล้ว

ควบคู่กันไป เราต้องทำให้ “ทุกคน” ที่มีความเสี่ยงอยู่ มีทางเลือก มีเครื่องมือในการป้องกันตัวเองจากเอชไอวีที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตของแต่ละคน เช่น ถุงยางอนามัย เข็มสะอาด PrEP และอื่นๆ

ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการลดอัตราการติดเชื้อของทารกแรกเกิดลงได้เป็นอันดับต้นๆของโลก แต่ยังมีหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวีมาฝากครรภ์ช้า เราต้องหาทางให้เขาได้รับบริการป้องกันที่เป็นมิตรและมียาต้านไวรัสฯ ที่มีประสิทธิภาพสูงเพิ่มให้กับหญิงตั้งครรภ์ที่เข้าสู่ระบบช้า เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีของทารกลงให้เป็นศูนย์ให้ได้ เพื่อนำไปสู่เป้าหมาย การไม่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่อีกต่อไป

นอกจากนั้น เราก็ต้องสร้างบรรยากาศของสังคมที่พร้อมเข้าใจเอชไอวี ไม่มีการรังเกียจตีตราผู้ติดเชื้อฯ ทำให้เขาได้เรียน ทำงาน มีครอบครัว และมีชีวิตก้าวต่อไปข้างหน้าได้จริง พร้อมๆกันนั้น ก็ต้องทำให้ตัวผู้ติดเชื้อเองมั่นใจในการใช้ชีวิตกับการมีเอชไอวีของตนเองด้วยเช่นกัน

การลดการรังเกียจตีตรานั้น ทุกหน่วยงาน ต้องไม่มีนโยบายหรือแนวปฏิบัติที่ลิดรอนสิทธิผู้ติดเชื้อฯ เช่น การตรวจเลือดเพื่อเป็นเงื่อนไขในการสมัครหรือรับเข้างาน ทุกวันนี้มีหน่วยงานของรัฐหลายแห่ง ยังมีการบังคับตรวจเลือดอยู่

การทำงานเอดส์จะสำเร็จได้ ทุกภาคส่วน ต้องเห็นเป้าหมายเดียวกันนี้และก้าวเดินไปสู่เป้าหมายพร้อมกันแบบเคียงบ่าเคียงไหล่ ร่วมกำหนดทิศทางไปด้วยกัน
ผมอยากจะบอกว่า “ถ้าเราจะไปได้ไกล เราต้องไปด้วยกัน”
………………………
อภิวัฒน์ ได้กล่าวไว้ในงานปฐมนิทัศน์ยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560-2573 วันที่ 13 กันยายน 2560