เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 เวลา 08.30 – 13.00 น. สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 13 กทม. จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั่วไปจากผู้ให้และผู้รับบริการระดับเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประจำปี 2566 ตาม พ.ร.บ.ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ในมาตราที่ 18 (10) และ (13) ที่ให้มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อนำข้อคิดเห็นทั้งหมดที่ได้จากเวทีรับฟังความเห็นฯ ไปวิเคราะห์และศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาเป็นชุดสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต่อไป
.
ในการนี้ นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ผู้แทนจากเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ และผู้ป่วยเรื้อรัง กทม. ได้ยื่นข้อเสนอให้เพิ่มชุดสิทธิประโยชน์และพัฒนาระบบบริการ ปี 2566 ในด้านเอชไอวีและโรคเรื้อรังอื่นๆ ไปยัง สปสช. เขต 13 โดยมีประเด็นหลัก ๆ ดังนี้
.
1. เสนอให้ยา Tenofovir alafenamide -TAF (ทาฟ) เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวีในสูตรยาที่แนะนำเป็นสูตรแรก ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
2. ขยายการรักษาไวรัสฯ ซีไม่จำกัดอายุและไม่จำกัดจำนวนครั้ง
3. ให้ประชาชนทุกคนได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
4. ให้การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ต้องเป็นสิทธิของทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินไทย
5. ให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสฯ ที่หน่วยบริการทุกแห่งเป็นจริงได้ในทางปฎิบัติ
6. มีระบบติดตามการปรับเปลี่ยนสูตรยาต้านฯ ตามมาตรฐานให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว
7. ชดเชยค่าบริการตรวจคัดกรอง ตรวจยืนยันการติดเชื้อไวรัสฯ ซี และตรวจวินิจฉัยเพื่อการรักษาให้กับหน่วยบริการที่ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม
8. สนับสนุนและติดตามให้โรงพยาบาลชุมชนให้การรักษาไวรัสตับอักเสบซีได้จริง
9. การใช้เครื่องไตเทียมต้องเป็นสิทธิให้กับผู้ติดเชื้อฯ ด้วย
10. ให้มีคณะทำงาน หรือกลไกเพื่อเสนอยารักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพสูง ลดผลข้างเคียงจากการรักษาเข้าสู่สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยมะเร็ง
11. ด้านการจัดซื้อยารวม ให้ สปสช. มีกลไกที่เข้มแข็งและทันต่อสถานการณ์ เพื่อวิเคราะห์การใช้ยา ติดตามการวางแผนจัดซื้อ การจัดส่งยา รวมไปถึงการสำรองยา ให้มีประสิทธิภาพ ป้องกันการขาดแคลนยา
.
#เครือข่ายผู้ติดเชื้อ #เอชไอวี #โรคเรื้อรัง #สปสช. #บัตรทอง